บทความงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 12 (มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม)
ระหว่างวันที่ 9 – 10 กรกฎาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม


แสดงบทคัดย่อ
 ชื่อบทความภาษาไทย รูปแบบของ“สิงห์” ในงานประติมากรรมสมัยทวารวดี
 ชื่อบทความภาษาอังกฤษ (Title) The Style of Singha in Sculpture of Dvaravati Period
 ชื่อผู้เขียนบทความ (Authors) ผศ.ดร.สุพิชฌาย์ จินดาวัฒนภูมิ ,
 บทคัดย่อภาษาไทย
           สิงห์ เป็นหนึ่งในสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์มงคล ที่นิยมสร้างในงานศิลปกรรมสมัยโบราณ เช่น รูปแบบของสฟิงซ์ ในอารยธรรมอิยิปต์โบราณ สิงห์ในภาพสลักนูนต่ำของอัสสิเรีย สิงห์เป็นสัตว์สัญลักษณ์มงคลของจีน และประเทศแถบเอเชียตะวันออก สิงห์เป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์และผู้นำ ความเชื่อเกี่ยวกับสิงห์จึงเป็นความเชื่อที่แพร่หลายทั้งทางยุโรป และเอเชีย ทางแถบเอเชียสันนิษฐานว่าได้รับความเชื่อที่เกี่ยวกับสิงห์มาจากอินเดีย เป็นความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ที่กล่าวว่าสิงห์เป็นพาหนะของเทพเจ้า เช่น พระอาทิตย์ พระแม่ทุรคา และพระคเณศ ในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่าสิงห์เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลศากยะวงศ์ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้งมีการกล่าวถึงในนิทานชาดกในครั้งที่พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นสิงห์ จากที่กล่าวมานี้ สิงห์จึงเป็นสัญลักษณ์มงคลเป็นที่นิยมปรากฎในงานศิลปกรรมไทย ในสมัยทวารวดี สิงห์เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์มงคล ที่นอกเหนือจากช้าง หงส์ และนาค ที่ปรากฎในงานศิลปกรรมสมัยทวารวดี รูปแบบของสิงห์ทวารวดีมีลักษณะที่โดดเด่นเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นทวารวดี สิงห์ทวารวดีเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้นเนื่องด้วยความศรัทธา และความเชื่อทางพระพุทธศาสนา  เป็นตัวแทนที่แสดงถึงพลังอำนาจ และความศรัทธา การปกป้องศาสนสถาน การสร้างสิงห์ในสมัยทวารวดีปรากฎในงานศิลปะประติมากรรมปูนปั้น และดินเผา มีทั้งที่เป็นแบบลอยตัว และนูนสูง ใช้ประดับศาสนสถานสมัยทวารวดี โดยเฉพาะมีการค้นพบที่เมืองโบราณนครปฐม เมืองโบราณอู่ทอง และเมืองโบราณคูบัว
 คำสำคัญภาษาไทย สิงห์, ประติมากรรม, ศิลปะทวารวดี
 Abstract
Singha was one of the animals that were an auspicious animals, popular in ancient art, the same as sphinx in Civilization of Ancient Egypt, Singha in bas-relief of Assyria. Singha was an auspicious animal symbol of China and East Asian countries. Singha was a symbol of protection and war leader. The belief of Singha was widespread both in Europe and Asia. In Asia, it was assumed that the belief of Singha came from India. Said that it was the belief in Brahminism that Singha was the vehicle of gods, such as the Sun, the Goddess of ThuraKha and Ganesh. In Buddhism, Singha was considered a symbol of the Shakyawong of the Buddha. There was also mentioned in the fable of the lord Buddha being a Singha. As mentioned previously, Singha was one of the auspicious animals which became popular Fine art in Thailand. Revealed evidences in Dvaravati period, besides of elephant, swan and naga, Singha was one of the suspicious symbols which appeared in Dvaravati Fine art. The style of Davaravati Singha was distinctive characteristic, had the unique style to indicate the art in Dvaravati period. Presuming that the symbol of Dvaravati Singha was the creature conjured by the faith and the beliefs in Buddhism, represented in power and faith, and the protection of religious place. The creation of Singha in Dvaravati period often appeared in sculpture, stucco and terracotta, both in round-relief and high-relief. Popularly used to decorate in religious place in Dvaravati period, especially found in the Ancient City of Nakhon Pathom, U-Thong Ancient Town, and Khu Bua Ancient Town of Ratcha buri.
 Keyword Singha, sculpture, Dvaravati art
 กลุ่มของบทความ สาขาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น
 รูปแบบการนำเสนอ Oral
 รูปแบบของบทความ บทความวิชาการ
Publication date 9 - 10 กรกฎาคม 2563