การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับข่าวต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายของชาวไทยมุสลิม และเพื่อศึกษาผลกระทบจากข่าวการก่อการร้ายที่มีต่อวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยมุสลิม โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเครื่องมือในการวิจัย 2 ประเภท ได้แก่ แบบสอบถาม ซึ่งใช้ในการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน และการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่างอีก 64 คน แล้วนำข้อมูลจากแบบสอบถามว่าวิเคราะห์ผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติในรูปแบบร้อยละ ส่วนข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกนำมาวิเคราะห์ตามแนวทางของการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า ชาวไทยมุสลิมเปิดรับข่าวต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากกว่าสื่อประเภทอื่น โดยเปิดรับข่าวจากเฟสบุ๊กมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35.8 และเลือกเปิดรับข่าวที่เพื่อนสมาชิกในเครือข่ายโพสต์หรือแชร์ไว้ และปรากฏอยู่ในหน้าฟีดของตนเอง เพื่อนสมาชิกในเครือข่ายดังกล่าว ได้แก่ เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่ทำงาน หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งนักวิชาการด้านอิสลามศึกษา นักการศาสนา สื่อมวลชน บุคคล และหน่วยงานสาธารณะอื่นๆ ที่ตนเองให้ความเชื่อถือ ด้านผลกระทบจากข่าวการก่อการร้ายที่มีต่อวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยมุสลิม ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างได้รับผลกระทบจากการถูกหวาดระแวง ถูกมองเป็นตัวตลก ถูกเลือกปฏิบัติ และการเป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ ตลอดจนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน 2544 ได้รับการนำเสนอเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก แต่ไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ให้สังคมภายนอกรับรู้ได้