บทความงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 12 (มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม)
ระหว่างวันที่ 9 – 10 กรกฎาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม


แสดงบทคัดย่อ
 ชื่อบทความภาษาไทย ผลของการเจือไอออนยูโรเพียมต่อสมบัติการเปล่งแสงในแก้วลิเทียมแบเรียมแกโดลิเนียมซิลิเกต
 ชื่อบทความภาษาอังกฤษ (Title) Effect of Eu3+ on luminescence property in LiBaGdSi glass
 ชื่อผู้เขียนบทความ (Authors) นางสาววาสนา มาศิลป์, รศ.ดร.ณัฐพล ศรีสิทธิโภคกุล ,
 บทคัดย่อภาษาไทย
งานวิจัยนี้ทำเพื่อศึกษาสมบัติการเปล่งแสงของแก้ว LiBaGdSi  เจือด้วย Eu3+ และเตรียมแก้วจากสูตร (50-x)SiO2 : 25Li2O : 20BaO : 5Gd2O3 : xEu2O3 เมื่อ x เป็นความเข้มข้นของ Eu2O3 (0.0  0.1  0.5  1.0  1.5 และ 2.0 ร้อยละโดยโมล) ถูกเตรียมขึ้นด้วยเทคนิคการหลอมแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว ผลการศึกษาพบว่าสเปกตรัมการดูดกลืนแสงของแก้วในช่วงความยาวคลื่น 200 ถึง 2500 nm พบพีคของการดูดกลืนแสงจำนวน 6 พีคโดยการดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่น 394 (5L6) 464 (5D2) 531 (5D2) 583 (5D0) 2090 (7F6) และ 2208 (7F6) นาโนเมตร สังเกตพบว่าสเปกตรัมการดูดกลืนแสงของแก้วตัวอย่างจะถูกดูดกลืนในช่วงอัลตราไวโอเลต วิสิเบิล จนถึงช่วงอินฟาเรด โดยที่ความยาวคลื่น 200 ถึง 2,500 นาโนเมตร จึงส่งให้ตัวอย่างแก้วเป็นสีแดงอ่อน สเปกตรัมการกระตุ้นด้วยแสงของแก้วลิเทียมแบเรียมแกโดลิเนียมซิลิเกตถูกวิเคราะห์เพื่อศึกษาการเปล่งแสงของแก้วตัวอย่าง โดยกำหนดความยาวคลื่นสำหรับการเปล่งแสงที่ 613 นาโนเมตร ซึ่งจะพบพีคการกระตุ้นด้วยแสงจำนวน 8 พีค ที่ความยาวคลื่น 362 (5D4)  382 (5L7)  394 (5L6)  414  (5D3)  464 (5D2)  553 (5D1) 578 (5D0) และ 587 (5D0) nm และพบว่าความสูงของพีคการกระตุ้นสูงสุดเกิดขึ้นที่ความยาวคลื่น 394 nm ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนระดับพลังงานจากสถานะพื้น 7F0 ไปยังระดับพลังงาน 5L6 ดังนั้นจึงเลือกใช้ค่าความยาวคลื่นดังกล่าวเป็นความยาวคลื่นในการกระตุ้นให้แก้วเปล่งแสงที่ความยาวคลื่นประมาณ  550 ถึง 750 นาโนเมตร ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนระดับพลังงานของยูโรเพียมออนจากสถานะกระตุ้น 5D0 ไปยังสถานะพื้น 7F2 โดยแก้วตัวอย่างจะสามารถเปล่งแสงที่มีความยาวคลื่น 613 นาโนเมตร ได้สูงสุด และยังพบว่าแก้วตัวอย่างเจือด้วยยูโรเพียมไอออนที่มีปริมาณความเข้มข้น 1.0 ร้อยละโดยโมล จะเปล่งแสงได้สูงกว่าตัวอย่างอื่น ๆ
 คำสำคัญภาษาไทย แก้วลิเทียมแบเรียมแกโดลิเนียมซิลิเกต,ไอออนยูโรเพียม,สมบัติทางกายภาพ,สมบัติทางแสง,สมบัติทางการเปล่งแสง
 Abstract
The aims of this research, study the optical and luminescence properties of LiBaGdSi glasses doped with Eu3+ ions. The glass sample were prepared (50-x)SiO2 : 25Li2O : 20BaO : 5Gd2O3 : xEu2O3 where x was concentration of (0.0, 0.1, 0.5, 1.0, 1.5 and 2.0 mol%) using conventional melt-quenching technique. The results found that absorption spectra in the wavelength from 200 to 2500 nm revealed six absorption peaks at about 394 (5L6), 464 (5D2), 531 (5D2), 583 (5D0), 2090 (7F6) and 2208 (7F6) nm. The absorbance spectrum of glass samples were absorbed in the ultraviolet, visible light range up to the infrared range. with a wavelength of 200 to 2,500 nm, then the glass sample is light red. The excitation spectra of LiBaGdSi glasses were performed to know the emission wavelength, which were obtained by monitoring the emission with 613 nm. The excitation spectra consisted of eight bands around 362 (5D4), 382 (5L7), 394 (5L6), 414 (5D3), 464 (5D2), 553 (5D1), 578 (5D0) and 587 (5D0) nm. The highest intensity of excitation peaks about 394 nm, which corresponds to changing the energy level from floor state 7F0 to 5L6. Hence it was chosen as excitation wavelength to study the emission spectra. The emission spectra contained two emission bands at 550 and 750 nm, which correspond to the 5D02F7 transitions. The emission spectra at 613 nm is the most intense band in this glass system. In addition, the result found that the quenching concentration was found at 1.0 mol% of Eu2O3 concentration.
 Keyword LiBaGdSi glasses,Eu3+,Physical properties,Optical properties,Luminescence properties
 กลุ่มของบทความ วิทยาศาสตร์กายภาพ
 รูปแบบการนำเสนอ Oral
 รูปแบบของบทความ บทความวิจัย
Publication date 9 - 10 กรกฎาคม 2563